ครั้งแรกที่ Chang International Circuit กับการทดสอบ Benz C180 Exclusive และ C 250 AMG กับ ผู้หญิงขับรถ โดย:ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา


ครั้งแรกที่ Chang International Circuit กับการทดสอบ Benz C180 Exclusive และ C 250 AMG กับ ผู้หญิงขับรถ โดย:ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา

เป็นครั้งแรกที่ได้ ไปสนาม Chang International Circuit ซึ่งเป็นสนามแข่งระดับโลกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้ได้ ไปกับทางเมอร์เซเดสเบนซ์ เพื่อร่วมกิจกรรม Mercedes-Benz Driving Event ซึ่งเป็นครั้งแรกกับการทดสอบสมรรถนะของ The New C –Class ใน 2 รุ่น คือ C 180 Exclusive และ C 250 AMG Dynamic โดยได้ขับกันเต็มที่รอบสนามที่มีความยาว ประมาณ 4 .55 กิโลเมตร ได้ลองสมรรถนะกันอย่างสะใจกับสนามแข่งระดับมาตรฐานโลก


ช่วงเช้านัดพบกันที่โชว์รูมเบนซ์ทีทีซี ถนนพัฒนาการ เพื่อขึ้นรถสปรินเตอร์ ไปยังสนาม Chang International Circuit ที่ จังหวัดบุรีรัมย์ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง

ไปถึงก็เข้าสนาม เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน และเตรียมตัวทดสอบรถกันเลย

โดยรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับการขับขี่ในสนามซึ่งมีหัวหน้าทีมผู้ฝึกสอน (Instructor)จากเมอร์เซเดสเบนซ์ ให้คำแนะนำ


และแบ่งกลุ่มเพื่อการทดสอบรถในรุ่น C180 Exclusive และ C 250 AMG Dynamic

C 180 Exclusive เครื่องยนต์ 1,600 ซีซี 4 สูบเทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ทำงานร่วมกับ เกียร์อัตโนมัติแบบเดินหน้า 7 จังหวะ ( 7G-TRONIC PLUS) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย( Paddle Shift) 156 แรงม้าที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ความเร็ว 1,200-4,000 รอบ
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.5 นาที ความเร็วสูงสุดประมาณ 223 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 17.2-18.5 กม./ลิตร ขนาดยาง 225/50 R 17 ยางรถยนต์แบบ Run Flat tyres ถังน้ำมันจุ 66 ลิตร

เป็นรถยนต์นำเข้า ราคาอยู่ที่ 2,790,000 บาท


รูปโฉมแตกต่างไปจากรุ่นเดิมเยอะเลยดูโฉบเฉี่ยวขึ้น กระจังหน้าแบบคลาสสิคที่มาพร้อมกับโลโก้เมอร์เซเดสเบนซ์บนฝากระโปรงลาย 3 แถบเสริมโครเมี่ยม


ส่วนอีกรุ่นคือ C 250 AMG Dynamic เครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ เกียร์อัตโนมัติเดินหน้าแบบ 7 จังหวะ พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย เครื่องยนต์ 2,000 ซีซี แรงม้าสูงสุด 211แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดอยู่ที่ 350 นิวตันเมตรที่ 1,200-4,000 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 อยู่ที่ 6.6 กม/ชม. ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 250 กม/ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย 17.9-18.9 กม/ลิตร
ขนาดยาง –หน้า 225/45 R18 ขนาดยางหลัง 245/40 R 18 ยางแบบ Run Flat Tires ถังน้ำมัน 66 ลิตร

เป็นรถนำเข้า ราคาอยู่ที่ 3,190,000 บาท


กระจังหน้าแบบสปอร์ต มีโลโก้เมอร์เซเดสเบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลางลาย 2 แถบ พร้อมชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG

ทั้ง 2 รุ่น ภายในห้องโดยสารดูหรูหราดี ที่โดดเด่นก็คือแผงคอนโซลกลางที่เป็นชิ้นเดียวกับที่พักวางแขน ออกแบบมาได้ดูหรู พร้อมด้วย Touchpad ที่ติดตั้งบริเวณที่พักแขน ง่ายต่อการใช้อย่างเช่นการควบคุมการทำงานของเครื่องเสียงโดยใช้ปลายนิ้วสัมผัส


เมื่อพร้อมแล้วก็ลงสนามกันเลย โดย จะแบ่งสนามทดสอบออกเป็นสถานี รถที่ขับไปที่สถานีแรกนี้ก็คือ ตัว C250 AMG ชอบสีสันด้านในของตัวรถ หลังคาแบบพาโนรามิคเลื่อนเปิดปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ถึงเวลาแล้วไปขับรถกันดีกว่าไปที่
Lane Chang กันก่อน จะมีกรวยวางแบกซิกแซก คือให้วิ่งด้วยความเร็ว 90 แล้วหักขวาเข้าเลนขวา แล้วเข้าเลนซ้ายเพื่อเบรกจอด จะเห็นว่ารถเหมือนจะเอียง ตามแรงเหวี่ยงของการหักหลบ แต่ก็เกาะถนนดีไม่เสียหลักง่ายๆ

ซึ่งก่อนจะขับครูฝึกก็จะแนะนำท่านั่งที่ถูกต้องให้ โดยเท้าซ้ายยันที่พักเท้า ส่วนเท้าขวาก็สามารถงอข้อเท้าได้อย่างสะดวกเวลาเหยียบเบรกและคันเร่ง ส่วนหลังก็ให้พิงพนักที่นั่งไว้ มือซ้ายจับพวงมาลัยที่ 9 นาฬิกา ส่วนมือขวาจับพวงมาลัยที่ 3 นาฬิกา
(หันหน้าเข้าหานาฬิกา)

เมื่อนั่งในท่าที่ถูกต้องแล้ว ก็ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง อีกเรื่องหนึ่งที่ครูฝึกบอกไว้คือ อย่าปรับเก้าอี้ที่นั่งขับให้สูงเกินไป เพราะถ้าสูงแล้ว เวลามองถนน เราจะมองมุมต่ำ ไม่มองมุมกว้างและไกล คนที่ชอบปรับที่นั่งให้สูงๆ ลองปฎิบัติดูตามนี้นะคะ รวมทั้งตัวดิฉันด้วย


ขึ้นขับครั้งแรก ยังมองเห็นเลนไม่ชัดเจนก็เลยยังไม่กล้าขับเร็ว เข้าไปแบบช้าๆ ได้ยินเสียง Instructor(ผู้ฝึกสอน) บอกว่า ให้ขับในความเร็วที่ 90 รอบที่2 เข้าแบบเต็มที่ มั่นใจสุดๆ

โดยมีพรรคพวกที่นั่งไปด้วยบอกว่าเหยียบเข้าไปให้เต็มที่เลย ซึ่งถ้าเราเจอเหตุการณ์จริงเมื่อพบสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้าเราจะหักหลบอย่างไร และถ้ารถที่มีอุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆให้มาด้วยก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้นว่ามีส่วนช่วยด้วย

รถคันนี้มีโหมด ECO , Comfort และ Sport + ซึ่งทาง Instructor ให้ใช้ทั้งโหมด Comfort และ Sport + ซึ่งจะพบความแตกต่าง ว่าโหมด Sport + พุ่งเร็ว คลอ่งตัวกว่าเหมือนชื่อ


หลังจากนั้นก็ไปขับ กันในรอบสนาม โดยมีทั้งทางตรงทางโค้งเหมือนลงแข่งในสนามจริงๆ คราวนี้ได้ไปลองกับตัว C180 Exclusive โดยมีการวางไพล่อน ไ(กรวย) ไว้เพื่อเป็นเส้นทางในการขับขี่เหมือนกับเส้นทางที่นักแข่งรถใช้ โดยเมื่อปล่อยรถจากจุดสตาร์ท เราก็ชิดช้ายขอบสนามที่มีไพล่อนวางอยู่ 1 อัน แล้วหักไปทางขวาเพื่อชิดไพล่อนที่ขอบสนามด้านขวา แล้ววิ่งไปอีกหน่อนก็จะเจอไพล่อนวางอยู่ด้านขวา 2 อันซึ่งจะเป็นจุดเริ่มเลี้ยว แล้วจะเจอไพล่อน 3 อันตอนนี้เริ่มเบรกแล้วเข้าโค้งไปเลย เข้าโค้ง เลยจากโค้งนิดหน่อยก็จะเห็นไพล่อนเดี่ยววางอยู่ซ้ายให้ชิดซ้ายแล้วมาทางขวาเพื่อชิดไพล่อนอีกอันแล้วถึงหักวิ่งตรง แล้วเบรกเข้าจุดพักรถ ซึ่งจุดนี้ทำให้เห็นถึงสมรรถนะของรถการเข้าโค้งการเกาะถนน หนักแน่นมั่นคง ใช้โหมด Sport+ ได้วิ่งกันอยู่หลายรอบ ถ้าวิ่งตามจุดไพล่อนที่วางไว้ก็จะขับง่าย ก็คือขับตามที่ครูฝึกแนะนำนั่นละคะ จะควบคุมรถง่าย และเข้าโค้งก็ง่ายด้วย


คันสุดท้ายที่ขับในวันแรกก็คือ A45 AMG เครื่องยนต์ 2,000 ซีซี 4 สูบ เทอร์โบ กำลังออกมาได้ถึง 165 กิโลวัตต์ เกียร์ AMG DCT 7 –Speed Sports ล้อ AMG ขนาด 19 นิ้ว โปรแกรมควบคุม ESP ได้รับการตกแต่งพิเศษ

โดยมีครูฝึกหรือ Instructor ขับนำในสนามแข่ง โดยใช้โหมด Sport + และเป็นคันแรกที่ขับตาม Instructor เลยได้เกาะติดอย่างสนุกสนาน บางช่วงทางตรงความเร็วไปถึง 170 แต่เมื่อวิ่งตามเส้นทางที่วางไว้ก็เลยง่าย การเกาะถนน และอัตราเร่งดีมากขึ้นพรวดเลยค่ะ ได้ยินเสียงปุดปุดปุดดังจากท่อไอเสียก็ยิ่งสนุกใหญ่ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เข้าโค้ง มีกรวย 3 อันที่ให้เริ่มเบรก ก็จะเหยียบเบรกและปล่อยทันที จะได้ยินเสียงครูฝึกว่าอย่าเพิ่งปล่อยเบรกเร็วเกินไปให้ค่อยๆปล่อย เพื่อความปลอดภัย


ส่วนวันรุ่งขึ้นก็ขับเพิ่มอีก 2 สถานีคือขับแบบ Gymkana คือมีกรวยวางเป็นทางตรงแคบๆ แล้วขับแบบซิกแซก และขับเป็นวงกลมหนึ่งรอบกรวย แล้วก็ไปขับแบบสลาลอม ไปออกทางตรงเพื่อเบรก และเข้าไปที่จอดรถเพื่อตั้งต้นใหม่

ซึ่งก็ได้ลองกับตัว C180 Exclusive ขับครั้งแรกก็จะช้าหน่อยเพื่อดู เส้นทางก่อน ครูฝึกบอกว่าบางท่านขับแล้วบอกว่ารถโอเวอร์สเตียร์หรืออันเดอร์สเตยร์ คือมีอาการท้ายปัด ซึ่งจริงแล้วเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่ ถ้าหักพวงมาลัยเร็วก็จะพบอาการแบบนี้

เมื่อลองดูไปหนึ่งรอบแล้ว ก็เริ่มขับจริง มีอยู่ช่วงหนึ่งตอนขับเป็นวงกลมหนึ่งรอบ ได้เข้าไปโดยที่ไม่เบรก ซึ่งเค้าให้เบรกก่อนเข้า แต่ก็ลืมไป รถก็เข้าไปเป็นวงกว้างมาก คิดว่าจะหลุดแล้ว แต่ก็สามารถที่จะบังคับพวงมาลัยกลับมาเป็นปกติ ก็ต้องยอมรับในระบบความปลอดภัยที่เขามีมาในรถ และคนขับต้องมีสติ ท่องไว้เวลาขับรถ


อีกสถานีหนึ่งก็คือระบบ Launch Control โดยใช้ A45 และ CLA 45 ให้ขับ 2 คัน โดยให้เท้าซ้ายแตะที่เบรก เท้าขวาแตะอยู่ที่คันเร่ง เข้าเกียร์ D กดโหมด M ใช้มือทั้งสองข้างดึง Paddleshift ที่พวงมาลัย เข้าหาตัว ยกเท้าซ้ายออกจากแป้นเบรกเหยียบคันเร่งไปเลย จะเห็นพละกำลังมหาศาลของเครื่องยนต์ เพราะรถจะพุ่งไปสุดๆเลย เหมาะกับการที่จะออกตัวเร็วๆ และต้องถนนโล่งๆด้วยนะคะ


สนามสุดท้ายเป็นการลองระบบเบรก และระบบ ESP โดยจะมีการวางกรวยเหมือนเช่น เดิม เมื่อถึงจุดที่ให้เบรกก็เตรียมเบรกและเบนมาที่กรวยที่วางอยู่ ระบบ ESP ก็ทำงานประสานกันได้ดีมาก ก็เป็นการป้องกันความปลอดภัยหากต้องเบรกแรงๆเพื่อหักหลบสิ่งใด ระบบจะช่วยเราได้ โดยเมื่อจะเบรกแรงๆ ไฟที่เบรกจะกระพริบเหมือนไฟฉุกเฉิน ซึ่งก็เป็นผลดีให้คันหลังระวังไปด้วย

เป็นอันจบทริป Mercedez Driving Event ในครั้งนี้ กับความสนุกสนานในการขับรถในสนามแห่งนี้ ได้เห็นสมรรถนะของรถและทดสอบระบบความปลอดภัยที่ให้มา

หากผู้ที่สนใจซื้อรถโดยมีงบประมาณขนาดนี้ ได้มาลองขับแบบนี้ คงจะตัดสินใจซื้อรถได้ง่ายขึ้น

ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
ผู้หญิงขับรถ

Facebook Comments