ฮอนด้าชวนสื่อมวลชนขับฮอนด้า บีอาร์-วี และซีวิค รวมพลัง กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ไปสร้างฝาย และปลูกพันธุ์ไม้ท้องถิ่น ในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำน่าน

dsc_0713

 

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ผสานความร่วมมือกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ต่อยอดความสำเร็จจากการดำเนินงานด้านการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ ในพื้นที่ลุ่มน้ำปราจีนบุรี สู่การพัฒนาฯ พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน ที่ประสบปัญหาเขาหัวโล้นก่อให้เกิดปัญหาภัยแล้งและดินถล่ม คาดหลังการดำเนินงานในปี 2562 ทั้ง 2 ลุ่มแม่น้ำ
จะช่วยให้ประชากร 4,757 ครัวเรือนมีน้ำอุปโภค-บริโภค และเพิ่มแหล่งน้ำสำรองสำหรับการเกษตรรวม 15,256 ไร่ ให้ทำการเกษตรได้อย่างยั่งยืนตลอดทั้งปี รวมทั้งฟื้นฟูพื้นที่เขาหัวโล้นกว่า 3,000 ไร่ ให้กลับมาเป็นป่าต้นน้ำเพื่อช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งและป้องกันดินถล่ม

2
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการผู้จัดการกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย กล่าวว่า “ปัญหาเรื่องน้ำ
เป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ซึ่งกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย เห็นถึงความสำคัญและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยสนับสนุนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่แม่น้ำปราจีนบุรี มาตั้งแต่ พ.ศ. 2558 จนสัมฤทธิ์ผลสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งในพื้นที่ตำบลนาแขมและตำบลเมืองเก่าที่เรื้อรังมาอย่างยาวนาน ให้กลายเป็นชุมชนต้นแบบในการบริหารจัดการน้ำ
เพื่อประโยชน์ที่ยั่งยืนสูงสุดแก่ส่วนรวมอย่างแท้จริง จึงขยายผลการดำเนินงานสู่พื้นที่ลุ่มน้ำน่าน บริเวณชุมชนบ้านดงผาปูนและบ้านนาบง ซึ่งประสบปัญหาเขาหัวโล้น ที่ควรได้รับการจัดการอย่างเป็นระบบอย่างเร่งด่วน โดยผสานพลังประชารัฐในจังหวัดน่าน ร่วมกันฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำให้กลับมาอย่างยั่งยืน”

3

dsc_0806 dsc_0791
“โครงการ “พัฒนาแหล่งน้ำตามแนวพระราชดำริพื้นที่ลุ่มแม่น้ำน่าน” มีระยะการดำเนินงาน 3 ปี ตั้งแต่พ.ศ.2560 – พ.ศ.2562 โดยกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยให้การสนับสนุนงบประมาณรวม 12 ล้านบาท
โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนด้วยการพัฒนาศักยภาพชุมชนให้สามารถพัฒนาและบริหารจัดการน้ำ
ได้ด้วยตนเอง และพร้อมขยายผลความสำเร็จสู่พื้นที่ใกล้เคียง คาดว่าหลังโครงการฯ แล้วเสร็จในปี
พ.ศ.2562 จะสามารถฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบปัญหาเขาหัวโล้นกว่า 3,000 ไร่ ให้กลับเป็นป่าต้นน้ำดังเดิม
เพื่อช่วยแก้ปัญหาภัยแล้ง ป้องกันดินถล่ม ส่งผลให้ประชากร 272 ครัวเรือนมีน้ำอุปโภค-บริโภค และ
ทำการเกษตรตลอดทั้งปี โดยจัดกิจกรรมนำร่องการดำเนินงานระยะที่ 1 (พ.ศ. 2560) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำที่เป็นบริเวณบ้านดงผาปูน ตำบลบ่อเกลือใต้ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ด้วยการสร้างระบบน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นในดินและการปรับปรุงดิน ด้วยการสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้นในบริเวณลำห้วยจำนวน 5 ฝาย และการปลูกพืชอุ้มน้ำบริเวณร่องน้ำ เช่น กล้วยป่า กล้วยน้ำว้า และต๋าว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ให้สามารถอุ้มน้ำได้ดีขึ้น และเกิดเป็นแผนแม่แบบการดำเนินงานฟื้นฟูเขาหัวโล้นเพื่อการพัฒนาพื้นที่ต้นน้ำอื่นต่อไป” นายพิทักษ์ กล่าวเสริม

1
ดร.รอยล จิตรดอน เลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “แนวทางการพัฒนาและขยายผลปัญหาเขาหัวโล้นในชุมชนบ้านดงผาปูนและบ้านนาบง เป็นการน้อมนำกรอบแนวคิคและการทำงานตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปริมนทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2554 ความว่า “การจัดการน้ำชุมชนนั้น เห็นความสำเร็จในบางชุมชนแล้ว ให้ชุมชนชาวบ้านที่มีความรู้ ประสบความสำเร็จ มีประสบการณ์จัดการและพัฒนาน้ำในพื้นที่ มาช่วย
ขยายผลไปยังชุมชนอื่น” ด้วยการเชื่อมโยงหลักการ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เพื่อความยั่งยืนในการจัดการน้ำชุมชน นอกจากนี้ ยังเป็นการขานรับคำสั่งการของนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่พบว่าพื้นที่เขาส่วนใหญ่ในจังหวัดน่านมีสภาพเป็นเขาหัวโล้น เนื่องจากชาวบ้านยังคงทำเกษตรแบบเชิงเดี่ยวในพื้นที่เขา อาศัยน้ำฝนเพียงอย่างเดียว ไม่มีระบบน้ำสำหรับปลูกไม้ผลไม้ยืนต้น ด้วย 3 แนวทางในการจัดการพื้นที่ป่าต้นน้ำ ประกอบด้วย

6

 

 

1) การปรับเพิ่มโครงสร้างน้ำทั้งระบบถังสำหรับอุปโภค-บริโภคที่มีอยู่เดิม ขนาด 130 กว่าลิตร ให้ใช้การได้ทั้ง 7 ถัง

2) การพัฒนาระบบน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดิน ด้วยฝายชะลอความชุ่มชื้น ปรับปรุงดิน ปลูกกล้วยป่า ต๋าว และพืชเสริมอื่นๆ และ

3) การเพาะปลูก โดยมุ่งเน้นให้ในพื้นที่มีการปรับปรุงพื้นที่การเกษตรทั้งแนวราบและแนวสูง ปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกพืชใหม่เป็นแบบ “ป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง” และเกษตรผสมผสานเพื่อให้มีผลผลิตตลอดทั้งปี ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำสำรองสำหรับอุปโภค-บริโภค และการเกษตรได้อย่างพอเพียงในฤดูน้ำแล้ง เป็นพื้นที่ต้นแบบของความสำเร็จในการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ เกิดเป็นเครือข่ายการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน และขยายผลความสำเร็จสู่ชุมชนอื่นต่อไป”

8 7 5
“ผมรู้สึกยินดีที่ได้เห็นการรวมพลังจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ประชาชน กองทัพภาคที่ 3 และนักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพปัว จังหวัดน่าน อาสาสมัครพนักงานในกลุ่มบริษัทฮอนด้า ผู้จำหน่ายรถยนต์และจักรยานยนต์ฮอนด้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนบ้านดงผาปูนและบ้านนาบง ที่ได้ร่วมมือกันสำรวจ ศึกษา รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ปัญหาเชิงลึก สู่การเสนอแนวทางการแก้ไขและพัฒนาแหล่งน้ำในชุมชนของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพจนเป็นแบบแผนการบริหารจัดการพื้นที่ต้นน้ำอย่างยั่งยืน ตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และขอยืนยันว่าเราพร้อมที่จะสนับสนุน และมอบความช่วยเหลือแก่พี่น้องชาวไทยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ
การจัดการน้ำที่เป็นรากฐานสำคัญในการดำรงชีวิต” นายพิทักษ์ กล่าวทิ้งท้าย

 

ในครั้งนี้บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในสมาชิกของกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยได้ ชวนสื่อมวลชนเดินทางไปกับฮอนด้า บีอาร์-วี และซีวิค เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ “พัฒนาแหล่งน้ำตามแนวพระราชดำริพื้นที่ลุ่มแม่น้ำน่าน” ด้วยการสร้างฝาย และปลูกพันธุ์ไม้ท้องถิ่น ร่วมกับกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย และอาสาสมัครพนักงานในกลุ่มบริษัทฮอนด้า ผู้จำหน่ายรถยนต์และจักรยานยนต์ฮอนด้า กองทัพภาคที่ 3 และนักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพปัว จังหวัดน่าน รวมถึงชุมชนบ้านดงผาปูนและบ้านนาบง รวมกว่า 300 คน ณ พื้นที่ชุมชนบ้านดงผาปูนและบ้านนาบง ตำบลบ่อเกลือใต้ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน

dsc_0561

 

 

กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อชุมชนในครั้งนี้ สื่อมวลชนได้ร่วมเดินทางไปกับสุดยอดยนตรกรรมถึง 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ ฮอนด้า บีอาร์-วี ยนตรกรรมแอคทีฟสปอร์ตครอสโอเวอร์ใหม่ ที่มอบคุณค่าใหม่ด้วยการเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกในระดับนี้ ที่นำเสนอเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง และยังมีรุ่นที่มีเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ พร้อมด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 117 แรงม้า และระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เอิร์ธดรีมเทคโนโลยี รองรับพลังงานทางเลือก E85 พร้อมด้วยมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครัน

dsc_0306 dsc_0496

ส่วนอีกรุ่นหนึ่ง คือ ฮอนด้า ซีวิค ที่ได้รับการออกแบบให้มีความทันสมัยและหรูหราในสไตล์สปอร์ต มาพร้อมเครื่องยนต์ VTEC TURBO ใหม่ ที่ให้สมรรถนะอันทรงพลัง และมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายและอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่เหนือระดับ ซึ่งมีทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO ใหม่ และเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC ซึ่งทั้งสองเครื่องยนต์มาพร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม

dsc_0893 dsc_0881

 

 

 

 

 

Facebook Comments