หัวฉีดสูบ1และสูบ4 เสีย

Brand: TOYOTA Model: 4Runner
Year: 2004 Miles: 100001 – ขึ้นไป
From: นาย บัณฑูร แย้มจ่าเมือง

สวัสดีครับอาจารย์ไม่ได้มารบกวนสอบถามนาน(มาก) เพราะรถปกติดี (toyota tiger d4d commalrial เครื่อง 2kd เกียร์ auto ขับเคลื่อน 2 ล้อ) ผมเข้าศูนย์บริการตลอด(แม้จะแพงหน่อย) ตอนนี้รถผมใช้มา 150180 เข้าศูนย์เช็คระยะ 150000 เรียบร้อยพร้อมเปลี่ยนสายพานไทมิ่ง หลังจากออกจากศูนย์ใช้มาได้ประมาณร้อยกว่าโล ปรากฎว่าเสียงเครื่องดังมาก ดังแบบกราวๆ เป็นเฉพาะตอนเร่งเครื่อง หรือ เมื่อเริ่มออกตัว เสียงจะดังมากขึ้น ตามรอบความเร็ว แต่ถ้าจอดรอบเดินเบาไม่ดัง ผมลองไปฟังเสียงรถเพื่อนที่ทำงานซึ่งเป็นรุ่นเดียวกัน เขาไม่ดังเหมือนผม จึงให้ศูนย์ตรวจสอบ ศูนย์แจ้งว่าเป็นเสียงมาจาก หัวฉีดเริ่มจะเสีย เนืองจากอาจจะเจอน้ำมันสกปรก และใช้งานมานาน/ศูนย์ใช้คอมพิวเตอร์วัดค่าวัดฉีด ปรากฎว่าได้ดังนี้ สูบ1 0.352 , สูบ 2 1.734, สูบ 3 1.725, สูบ 4 0.643 ช่างบอกว่าควรเปลี่ยน หัวฉีดที่ สูบ 1 และ 4 เนื่องจากค่าน้อยกว่ามาตราฐาน แต่ตอนนี้ผมเจอพิษเศรษฐกิจเล่นงาน เพราะค่าหัวฉีดของศูนย์ รวม 2 หัวเกือบสองหมื่น จึงขอสอบถามอาจารย์ดังนี้ครับ
1. อาการของหัวฉีดเสียมีอาการอย่างไรบ้าง
2. ถ้าเราใช้ไปก่อนได้หรือไม่ครับ มีอันตรายหรือมีผลกระทบอย่างไรบ้าง
3. ผมคิดเองว่ารถผมก็หลายปีแล้ว เราใช้หัวฉีดมือสองได้หรือไม่ครับ เพียงแต่ผมไม่มีความรู้ด้านเครื่องยนต์ไม่กล้าไปเดินซื้อเองที่เซียงกง
4. ผมเข้าไปดูในหน้าอู่แนะนำแล้วแต่ไม่รู้จะเข้าอู่ไหน อาจารย์พอจะแนะนำอู่ให้ผมได้ไหมครับ ทาง e-mail ก็ได้
ผมไม่ค่อยได้มีปัญหาสอบถาม แต่อ่านเวปนี้ทุกวันเข้าใจในการทำงานของคนที่เสียสละให้ส่วนรวม ซึ่งคนที่ไม่เข้าใจมักต้องการแต่สิ่งที่ดีๆ ให้เกิดกับตัวเอง โดยไม่สนว่าคนที่เข้ามาช่วยเหลือเราเสียสละมากแค่ไหน เป็นกำลังใจให้ครับ ถ้าอาจารย์สะดวกแนะนำอู่ให้ผมหน่อยนะครับ เพราะรถผมเดินทางต่างจังหวัดค่อนข้างบ่อย (ทั้งไปทำงานและไปหาลูกชายวัย 4 ขวบ) ผมเลยเข้าศูนย์ตลอดแต่รอบนี้เกือบ 2 หมื่น ไม่ไหวจริงๆ ครับ ถ้าผมขาดรายละเอียดอะไรอาจารย์บอกอีกทีก็ได้ครับ ผมจะพิมพ์รายละเอียดเพิ่มไปให้


1-อาการของหัวฉีดเสีย ก็คืออุดตัน และทำงานไม่ครบจังหวะ จะเกิดเสียงดังของเครื่องยนต์ และสั่น แต่ให้ชี้ชัดไม่ได้ ต้องใช้เครื่องมือตรวจสอบแบบที่ศูนย์เขาทำให้ ถูกต้องแล้ว อย่ามัวมาเชื่อคนอื่นบอกแบบไม่ใช้เครื่องมือ

2-จะทนใช้ไปทำไมครับ ทำไมไม่ลองให้ช่างเขาเอาออกมาล้างแล้วทดสอบ ก่อนใส่กลับเข้าไปใหม่ ถ้าทดสอบแล้วยังใช้ได้ล่ะครับ เพราะการทำงานผิดปกติ ถึงจะบอกได้ว่าหัวฉีดเสีย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าซ่อมไม่ได้นะครับ

3-หัวฉีดมือสอง คุณจะต้องรู้เบอร์ของหัวฉีด และต้องนำเบอร์ของหัวฉีดไปบอกคอมพิวเตอร์ โดยใช้คอมพิวเตอร์ร่วมในการเปลี่ยนหัวฉีด และบอกกล่าวกับคอมพิวเตอร์ให้รู้จักกับหัวฉีดตัวที่คุณเอามาเปลี่ยนเสียก่อน หาไม่ หัวฉีดตัวใหม่จะไม่ทำงานครับ ไปเดินซื้อเอง ยิ่งไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวก็ถูกต้มจนได้ อย่าเสี่ยงเลย
ให้ช่างจัดการให้ดีกว่า แต่ช่างจะต้องรู้เรื่องการติดต่อระหว่างหัวฉีด กับคอมพิวเตอร์เสียก่อน ถ้าช่างไม่รู้เรื่อง ก็อย่าให้ทำให้นะครับ เดี๋ยวไปกันใหญ่

4-ลองอู่วัฒนาดูก็ได้ครับ โทรศัพท์ไปถามอาจารย์สุชาติก่อน ถามอย่างที่ผมแนะนำนี่แหละ ว่าหัวฉีดจะต้องมีเบอร์ใช่ไหม และต้องปรับเบอร์ให้คอมพิวเตอร์รู้ก่อนใช้งานใช่ไหม ถ้าอาจารย์บอกว่าไม่ต้องละก็นะ อย่าเข้าไปทำครับ อันตราย

แล้วบอกผมมาอีกที จะแนะนำศูนย์บริการที่อาจจะซ่อมหัวฉีดให้คุณได้ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ศูนย์บริการที่อาจจะซ่อมหัวฉีดให้คุณได้ โดยการล้างและเช็ก ก็คือที่ SP International สำนักงานใหญ่ รามคำแหง ข้างเดอะมอลลรามฯ ลองดูครับ เข้าไปถามดูก่อนดีกว่า ถามหาเสี่ยอุ้ย ลองคุยกับเสี่ยอุ้ยดู อ้างว่า ผมแนะนำมาก็แล้วกัน ง่ายที่สุดแล้ว-ธเนศร์

Facebook Comments