HOT ROD


เพราะเพลงเหล่านั้น มักจะอยู่ในช่วงไม่เกินปี คศ.1975

ที่ค้นและรวบรวมเอาไว้ ก็เพื่อใช้เปิดในรายการ"กลับให้ได้ ไปให้ถึง" ที่ผมจัดอยู่ทางคลื่นวิทยุ FM 94.0 บ่ายจัดจัดทุกวันอาทิตย์ เป็นหลักใหญ่ครับ

ผมเข้าไปถึงสหรัฐอเมริกา ในช่วงของ "Muscle Cars" พอดี แล้วเมื่อกลับมาบ้านเรา ในระหว่างสงครามเวียตนามเข้มข้นอยู่ด้วยเลือดของคนอเมริกันผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย กำลังสาดกระจายไปทั่วแผ่นดินนั้น ผมก็ยังทันกับการเล่นเท็คออฟจากแยกไฟแดงบนถนนเพชรบุรี กับพรรคพวก อย่างทอม แซนเดอร์สัน หรือพิริยะ ทองเจือ

ทันยุคการแข่งควอเตอร์ไมล์ที่โรงงานยาสูบ คลองเตย และวัชรภูมิรังสิต

ที่บ้านเรา วัยรุ่นกรุงเทพมหานครในยุคผม อันอยู่ในช่วงปี พศ. 2500 ไม่น่าไม่มีใครไม่รู้จัก Elvis Presly


แต่ที่วุ่นวายอยู่กับรถยนต์ ไม่ใช่แบบขับโฉบไปฉายมา ต้องบ้าขนาดรื้อเครื่องยนต์ออกมาปรับแต่งตามประสา ไม่ว่าจะเรียนเกี่ยวกับเครื่องยนต์มาหรือไม่ก็ตาม หลายคนหลงไหลเพลงของ The Beach Boys และ Jan & Dean

เพลงหนึ่งที่ผมชอบมากมาจนทุกวันนี้ Hey Little Cobra โดยนักร้องชายสามคน ในชื่อกลุ่ม The Rip Chords ไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับรถยนต์ในฝันของผมมากนัก แต่ทำนองและเนื้อร้อง แสดงอารมณ์สนุกสนานของการแข่งขัน ในรถ Cobra อันเป็นรถยนต์สปอร์ตเต็มตัว ของยุคนั้น มาจนทุกวันนี้

ถ้าคุณฟังท่อนสุดท้ายของ Hey Little Cobra ที่บอกว่า … I took my Cobra out of gear and let it coast to the line. หลังนำหน้า String Ray และ XKE มาหลายขุมแล้วนั่น คุณอาจจะประหลาดใจ ว่าทำอย่างนั้นได้อย่างไร เพราะไม่ใช่วิธีขับรถ ไม่ใช่การควบคุมรถอย่างเต็มที่ของผู้ขับขี่


แต่ที่วุ่นวายอยู่กับรถยนต์ ไม่ใช่แบบขับโฉบไปฉายมา ต้องบ้าขนาดรื้อเครื่องยนต์ออกมาปรับแต่งตามประสา ไม่ว่าจะเรียนเกี่ยวกับเครื่องยนต์มาหรือไม่ก็ตาม หลายคนหลงไหลเพลงของ The Beach Boys และ Jan & Dean

เพลงหนึ่งที่ผมชอบมากมาจนทุกวันนี้ Hey Little Cobra โดยนักร้องชายสามคน ในชื่อกลุ่ม The Rip Chords ไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับรถยนต์ในฝันของผมมากนัก แต่ทำนองและเนื้อร้อง แสดงอารมณ์สนุกสนานของการแข่งขัน ในรถ Cobra อันเป็นรถยนต์สปอร์ตเต็มตัว ของยุคนั้น มาจนทุกวันนี้

ถ้าคุณฟังท่อนสุดท้ายของ Hey Little Cobra ที่บอกว่า … I took my Cobra out of gear and let it coast to the line. หลังนำหน้า String Ray และ XKE มาหลายขุมแล้วนั่น คุณอาจจะประหลาดใจ ว่าทำอย่างนั้นได้อย่างไร เพราะไม่ใช่วิธีขับรถ ไม่ใช่การควบคุมรถอย่างเต็มที่ของผู้ขับขี่


แต่ Little Cobra เป็นเพียงเพลง เพลงที่สาวสวยนาม Carol Connors ร่วมกับ Terry Melcher แต่งขึ้นในคืนหนึ่ง ต่อเนื่องจากหลังยามค่ำที่พบกันโดยบังเอิญในภัตตาคาร

ผู้หญิงสวย เก่ง ทำอะไรก็น่ารักทั้งนั้นละครับ

ถ้าเรานับคริสตทศวรราตามสากล เพลงเกี่ยวกับรถยนต์ก็เริ่มต้นในยุค ‘60s มาดังสุดสุดเอาในยุค ’70s ที่มีเพลงรถยนต์ออกมามากมาย ต่อเนื่องถึงยุค ’80s และเริ่มแผ่วลงเมื่อเข้าสู่ ทศวรรษที่ ‘90s ส่วนในทศวรรษปัจจุบันนี่ ผมไม่ได้ยินเพลงรถยนต์ใหม่ออกมาเลย


อย่างเพลง I Want A Lavendar Cadillac ของ Maurice King & His Wolverines ในปี คศ.1951 อันเป็นปีที่สองของทศวรรษที่ ‘60s จนถึง Hot Rod Gang โดย Stray Cats ในคศ.1983 หรือปีที่ 4 ของทศวรรษที่ ‘90s

ช่วงเวลานั้น นักร้องอย่าง Johnny Cash และ Chuck Berry นักร้องเพลง Rock ผิวดำที่รู้จักกันดีก็ส่งเพลงเกี่ยวกับรถยนต์ออกมาให้โลกสนุกสนานกันประปราย ยังคงจำกันได้ในทุกวันนี้

แต่ Hot Rod ยังอยู่ ไม่ได้อยู่เพียงแค่ความทรงจำเท่านั้นด้วย

ย้อนไปในวัยเด็กของหนุ่มหลายคน ที่เสาะแสวงหาพาหนะ พยายามจนได้รถยนต์คันแรกของชีวิตมาครอบครอง พ่อแม่อาจจะยังไม่เข้าใจหรอกครับ ว่าเราต้องการรถยนต์มาทำไม แต่เรารู้ เราได้ความรู้สึกเป็นตัวของเราเอง เราได้สัมผัสความรับผิดชอบที่เราต้องการ เป็นความรู้สึกที่เราเท่านั้นจะเข้าใจ เราอาจจะใช้รถคันนั้นสนองความสนุกสนานของเราอย่างหนัก แต่เราก็บำรุงรักษามันเต็มความสามารถของเรา เพื่อให้เป็นพาหนะของเราเต็มตัวและเต็มเวลา


กลับไปอีกครั้ง กลับไปบนถนนของรถยนต์ในฝัน ที่ประกอบขึ้นด้วยเหล็กและโครเมี่ยมอันแวววับ ถนนนี้มีต้นทางอันยาวนาน……..

ทศวรรษ 1930s นั่นน่ะครับ ที่ตามมาจากการจุดประกายของ Henry Ford ซึ่งวงการฮอทร็อดถือว่าเป็น Hot Rodder คนแรก

เฮนรี่ ฟอร์ด ไม่ได้เพียงแต่ทำสายพานการผลิต เพื่อสร้างรถยนต์ฟอร์ด Model T อันลือลั่นออกมาสู่โลกรถยนต์ ให้เป็นต้นแบบของการผลิตเช่นทุกวันนี้เท่านั้น ฟอร์ดยังเอาโมเดลทีมาถอดตรงนั้น รื้อตรงนี้ และพัฒนาเครื่องยนต์แบบที่เราเรียกกันว่าโมดิฟาย เพื่อให้โมเดลทีเอาชนะรถยนต์ใหญ่กว่า หรูกว่า แพงกว่า ในการแข่งความเร็วประเภทต่างต่างที่มีอยู่ในขณะนั้น

Model T ที่โมดิฟายจากสายงานของฟอร์ด มีประวัติของการเข้าแข่งและครองตำแหน่งหลายครั้ง ในอินดิอาน่าโปลิส ในทศวรรษ 1920s

ในทษวรรษที่ 1930s ฮอทร็อดเริ่มแพร่หลายออกไปสู่วันทีนเอจอเมริกัน แต่ก็ยังใช้เวลาอย่างสงบเสงี่ยมอยู่อีกนานประมาณ 20 ปี ก่อนที่ฮอทร็อดจะสร้างความครึกโครม ส่งประกายฉายแสง ออกมาอย่างรุนแรงราวระเบิดปรมาณู


ในแคลิฟอร์เนีย มองถนนใด ก็มักไม่พลาดจากการได้เห็นพวกรถที่ลดความสูงลงมาต่ำเตี้ย แต่ไม่ติดดินอย่างบ้านเรา ฝาครอบเครื่องถูกถอดออก หน้ารถยื่นออกไปผิดจากที่ผลิตมาจากสายการประกอบ ยางหน้าเล็ก หลังใหญ่ ยางหน้ากว้างขอบขาว กระทะล้อชุบโครเมี่ยมวาววับ เครื่องยนต์ที่เปลือยให้เห็นทั้งตัวประดับประดาด้วยโครเมี่ยม คาร์บิวเรเตอร์แบบสี่ท่อ หม้อกรองอากาศชุบโครเมี่ยม หรือไม่ก็เปลือยก๋าออกมาเลย

ไม่ใช่ฟอร์ดเท่านั้นนะครับ ที่นำเราในวัยทีมเอจ–เข้าสู่โลกของอัตราเร่งออกตัวอันรุนแรง เชพโรเล่ต์ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำความเป็นฮอทร็อดเข้ามาให้วัยรุ่นของยุคนั้น

เชฟวี่ ผลิตฝาสูบแบบโอเวอร์เฮดวาล์ว รุ่น Fontenac เพื่อใช้กับฟอร์ด Model T มากกว่า 10,000 ชุด


ฮอทร็อดไม่ใช่รถแบบ Speedsters หรือรถยนต์ราคาแพงหนักหนาสาหัสอะไร Hot Rodเป็นรถราคาถูก ผลิตออกมาจากสายพานการผลิตทั่วไป รถส่วนใหญ่ ที่ตอนนั้นคงต้องยอมรับว่าเป็นฟอร์ด ถูกเจ้าของรื้อส่วนประกอบที่ไม่ต้องการให้มีอยู่ออกไปจากตัวรถ โมดิฟายเครื่องยนต์ด้วยตนเอง ใช้อุปกรณ์ที่ทำขึ้นมาเองในโรงรถ หรือจากรถอื่น ไปจนถึงอะไหล่ประเภทหลังการขาย อุปกรณ์เพื่อปรับความแรงที่ผลิตขึ้นโดยกลุ่มฮอทร็อด เพื่อให้เป็นรถที่ขับขี่ได้บนถนนหลวง หรือการแข่ง หรือทั้งสองอย่างในรถคันเดียวกัน

แต่ทำไม รถและนักแข่งรุ่นแรก จนถึงการโมดิฟายแบบฮอทร็อดไม่ผ่านการรับรองให้เข้าแข่งได้ แม้ว่าจะเป็นงานจักรกลที่สร้างสรรค์ และพร้อมเสมอกับการรับมือในความเร็วของการแข่ง

เฮนรี่ ฟอร์ดกับเพื่อนร่วมทางอย่างพี่น้องกลุ่มเชพโรเล่ต์ และผู้สนับสนุนของเขาเป็นกลุ่มนายทุน ที่ในช่วงเริ่มตั้งไข่ของวงการรถยนต์ ผู้คนทั่วไปในธุรกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ มองการแข่งขันว่าเป็นตัวสร้างตลาดให้กับรถยนต์รุ่นใหม่ และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์สำหรับอุตสาหกรรมนี้เท่านั้น

แล้วก็กับผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ ก็ยังมองรถยนต์ว่าเป็นของใหม่ที่จะอยู่ไปได้นานเท่าไรก็ไม่แน่ แล้วก็ยังดูเหมือนจะเป็นอะไรที่เล่นมากกว่าใช้งาน

บางคน อย่าง Frank Lockhart นักแข่งผู้คว้าชัยชนะในอินดี้ และดาราระดับ Gary Cooper ไปพบว่าพื้นแห้งของทะเลสาปทางใต้ของแคลิฟอร์เนีย มีความราบเรียบ น่าเล่น แล้วเอารถ Millers กับ Duesenbergs ของเขาไปขับทดสอบความเร็วสูงสุดกันที่นั่น โดยไม่ได้ปรับแต่งให้เป็นฮอทร็อด

ทำไมหรือครับ

ก็เพราะในสมัยนั้น นักเลงรถยังไม่มีการรวมตัวกันขึ้นมาเป็นชมรม เป็นคลับ เป็นกลุ่มที่มีชื่ออย่าง Knight Riders หรือ Low Flyers อะไรทำนองนั้น

พวกเขายังไม่ออกมาจับกลุ่มยืนแกว่งกันอยู่ในปั๊มน้ำมันตามมุมถนน หรือในบริเวณอันกว้างขวางของร้านอาการประเภทขับเข้าไปสั่งกินในรถ ไม่มีป้ายหรือแผ่นภาพประดับรถ ไม่มีเสื้อหนังติดตราชมรม ยังไม่เป็นตัวก่อกวนหรือปฏิรูปวัยรุ่น ยังไม่แข่งกันเพื่อหวังอะไรทั้งสิ้น

กลุ่มฮอทร็อดยังไม่ได้ก่อตัวสร้างสังคมของตนขึ้นมา ยังไม่บ้าคลั่ง ยังไม่แผลงฤทธิ

— ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา —

Facebook Comments